15 วิธีประหยัดแบตฯ มือถือ และแท็บเล็ต Android ตอนที่ 3

แอพฯสตรีมมิ่งตัวสวาปามแบตเตอรี่ แอพพลิเคชันประเภทที่ต้องมีการสตรีม หรือดาวน์โหลดข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตอย่างต่อเนื่อง อย่างเช่น แอพฯที่สตรีมเพลง หรือวิดีโอจากเน็ต ซึ่งทำให้มือถือ Android ของคุณจะต้องเชื่อมต่อเน็ตไร้สาย (Wi-Fi, หรือ 3G) ตลอดเวลา เพื่อโหลดข้อมูลทั้ง audio และ video ในกรณีที่มีแบตเตอรี่เหลืออยู่ไม่มาก และจำเป็นต้องใช้งาน แนะนำอย่างรัน app เหล่านี้ คอนเฟิร์มว่า กินไฟแบตฯค่อนข้างหนักทุกตัว 
การทำงานของมือถือส่วนไหนกินแบตฯเมากน้อยเท่าไร...รู้ได้ โดยผู้ใช้สามารถตรวจสอบได้จากคุณสมบัติการทำงานที่มาพร้อมกับ Android ซึ่งมันสามารถบอกคุณได้อย่างค่อนข้างแม่นยำว่า ชิ้นส่วนการทำงานหลักๆ ของมือถือแต่ละส่วนใช้พลังานแบตเท่าไร? ตลอดจนแอพฯที่ใช้งานขณะนั้น คุณสมารถเข้าไปดูรายละเอียดดังกล่าวได้ที่ Settings/About phone/Battery/Battery use รายละเอียดของรายงานทีได้จะทำให้คุณสามารถพบสาเหตุที่ทำให้แบตฯมือถือของคุณหมดเร็ว เพื่อหาทางแก้ไข หรือเปลียนพฤติกรรมการใช้งาน ตลอดจน uninstall แอพฯต้นเหตุออกไป ส่วนใหญ่มักเกิดจากพฤติกรรมการเปิดใช้ฟังก์ชันทุกอย่าง ตลอดจนการรันแอพฯที่กินแบต แล้วไม่ได้ปิด เป็นต้น


ยกเลิก Widget ที่ไม่ค่อยใช้งานออกจากหน้าโฮม หลายคนชื่นชอบการใส่ Widget บนหน้า homecreen ของมือถือ Android โดยหารู้ไหมว่า Widget เหล่านี้มักจะมีการดึงข้อมูลจากเว็บ ซึ่งนั่นหมายความว่า มือถือของคุณจะต้องมีการดึงข้อมูลเข้ามาแสดงผลในส่วนของการทำงานด้านหลัง (background) ตลอดเวลา คล้ายๆ กับแอพฯพวกสตรีมมิ่ง แต่อาจจะกินไฟน้อยกว่า แต่ถ้าเกิดคุณติด Widget บนหน้าโฮมไว้หลายๆ ตัวล่ะ แน่นอนว่า แบตเตอรี่ของคุณจะถูกผลาญโดย Widget เหล่านี้ ข้อแนะนำคือ Widget ใดไม่ค่อยได้ใช้ ก็เอาออกไปดีกว่า เปลืองแบตฯเปล่าๆ
ใช้ Task Manager สอดส่องว่า แอพฯ หรือโพรเซสอะไรที่ทำงานแทบตลอดเวลา สำหรับทิปในตอนสุดท้ายนี้จะมุ่งเน้นที่การตามล่าหาต้นตอตัวสวาปามแบตฯ เพื่อกำจัด หรือจัดการมันซะ การติดตั้งแอพฯอย่างเช่น Advanced Task Cleaner น่าจะเป็นผู้ช่วยที่ดี เพราะนอกจากจะให้คุณได้ตรวจสอบ แล้วมันยังปิดบริการที่ไม่จำเป็นต้องใช้ในขณะนั้นออกไปได้อีกด้วย โดยเฉพาะบริการที่มีการโหลดซ้ำหลายครั้ง และทำงานอยู่ในแบคกราวด์ ซึ่งคุณสามารถตั้งให้ auto-kill แอพฯที่คุณไม่ได้ใช้บ่อย โดยอาจจะตั้งให้มันกำจัดแอพฯเหล่านี้หลังปิดหน้าจอ เป็นต้น นอกจากนี้คุณยังสามารถคอนฟิกให้ Task Manager แสดงการใช้ CPU ของแต่ละ app ซึ่งมันมีประโยชน์กว่าการรู้ว่า แอพฯตัวไหนใช่หน่วยความจำมากน้อยเท่าไรเสียอีก เนื่องจากมีผลกระทบต่อแบตเตอรี่โดยตรงมากกว่า


ความร้อนทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วขึ้น ไม่น่าเชื่อว่า สาเหตุหนึ่งที่ทำให้แบตเตอรี่หมดเร็ว นั่นก็คือ การวางมือถือแอนดรอยด์ของคุณไว้ภายใต้แสงอาทิตย์ทีมีความร้อน ดังนั้นทางที่ดีควรการเก็บมือถือไว้ในที่ไม่ร้อนจะดีที่สุด และไม่ควรให้มันทิ้งมันไว้กลางแจ้งแสงแดดจัด เพราะจะยิ่งเร่งให้แบตเตอรี่ของคุณหมดเร็วยิ่งขึ้น เราเตือนท่านแล้ว
และทั้งหมดคือเรื่องราวของเทคนิคการประหยัดพลังงานแบตเตอรี่สำหรับมือถือ และแท็บเล็ต Android ให้ใช้งานได้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งความจริงยังมีเทคนิคอีกมากมาย แต่เท่าที่แนะนำมา หากคุณได้ลองปฏิบัติตาม ทางกองบรรณาธิการเว็บไซต์ arip รับรองได้เลยว่า แบตเตอรี่ของคุณจะใช้งานได้นานขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน ขอให้โชคดที่ทุกท่าน และขอขอบคุณที่ติดตามอ่านกันครับ



ข่าวไอที ทิป-เทคนิค คอมพิวเตอร์